เฮนรี คิสซินเจอร์

นายเซี่ย เฟิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ โพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า การถึงแก่กรรมของนายเฮนรี คิสซินเจอร์ เป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อจีน สหรัฐฯ และโลก ประวัติศาสตร์จะจารึกสิ่งที่นายคิสซินเจอร์ ได้อุทิศตนให้แก่ความสัมพันธ์จีน-

Kissinger Associates ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายเฮนรี คิสซินเจอร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นักการทูตผู้ทรงอิทธิพล และเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เสียชีวิตแล้ววานนี้ ที่บ้านในรัฐคอนเนตทิคัตของสห

“สนธิ” เผยนัย “คิสซินเจอร์” อดีต รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ อายุ 103 ปี หอบสังขารเยือนปักกิ่ง เพราะได้รับการร้องขอจากรัฐบาลอเมริกา ช่วยฟื้นความสัมพันธ์ 2 ชาติ หลังอเมริกาเจอวิกฤติหนี้ท่วมหัวขณะที่จีนกำลังเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ ทิ้ง แม้ฝ่าย

หลายคนโดยเฉพาะเบบี้บูมเมอร์ที่อยู่ร่วมยุคร่วมสมัยกับอดีตนักการทูตอเมริกันระดับมือพระกาฬ : ดร.เฮนรี คิสซินเจอร์-ต่างเบือนหน้าหนี และภูมิใจที่ตนไม่มีเพื่อนชื่อ คิสซินเจอร์-

ท่ามกลางอุณหภูมิอากาศที่ออกจะร้อนระเบิดเถิดเทิง แถม “การเมือง” บ้านเรายังมาร้อนแสนร้อนไม่น้อยไปกว่ากัน โดยไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ใครแลนด์ไถล-ไม่แลนด์ไถล โอกาสที่จะ “ยุ่งฉิบหาย-ยุ่งตายห่า” ค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูงเ

“With friends like these, who needs enemies?” เป็นคำพูดช่างเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบกับบทบาทของสหรัฐฯ ในการปฏิบัติต่อมิตร

สถานการณ์ของยูเครนหลังจากทำสงครามกับรัสเซียเกือบครบ 1 ปีวันที่ 24 กุมภาพันธ์ยิ่งพิสูจน์คำพูดของนายเฮนรี คิสซินเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ขณะนี้ในวัย 99 ปีว่าเป็นความจริง ชัดเจนเพียงใด นั่นคือ “การเป็นศัตรูของสหรัฐฯ นั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แต่การมิตรกับสหรัฐฯ นั้นถึงตาย”

แม้รมต.กลาโหมสหรัฐฯ กำลังจัดให้มีการประชุมเพื่อระดมขออาวุธเพิ่มเติมจะมอบให้แก่ยูเครน รวมทั้งการเดินทางเยือนเคียฟครั้งแรกของ 3 ผู้นำสำคัญของอียูคือ ปธน.มาครง ของฝรั่งเศส, นายกฯ ชอลซ์ ของเยอรมนี และนายกฯ ดรา

ดังที่ผู้อำนวยการสำนักคิด “Think-Tank” ชื่อดังของรัสเซีย อย่าง “Valdai Club” “นายTimofei Bordachev” เขาได้ออกมาแปลความ ตีความ คำพูด คำจาของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้ได้ชื่อว่ามองลึก-มองไกล ไม่ว่าจะแก่แสนแก่